วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บัญชีราม เรียนไปทำงานไป 1

บัญชีราม-ตอนที่1 สมัครเรียน

สวัสดีคะ เนื่องด้วยส่วนตัวเอง Blogger ไม่ได้จบ ปริญญาตรีด้านการบัญชีมา
แต่ต้องมาทำงาน ทางด้วยบัญชี-การเงิน  เก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ

อยู่มาวันนึงจึงคิดอยากจะได้ ใบประกาศนียบัตร มาช่วยการันตี
ตัดสินใจอยู่หลายสถานบัน แต่ด้วยว่าเงือนไขในชีวิตสำคัญ คือต้องทำงาน
จึงตัดสินใจสมัครเรียน บัญชีที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหงคะ

การสมัครเรียนที่ราม ในเดือน พย. 2557 สามารถสมัครได้ 3 วิธี

- ทาง Internet
- ทาง จม.
- สมัครด้วยตนเอง

ส่วนตัว blogger เอง จบป.ตรี คณะบริหาร การจัดการระหว่างประเทศคะ
จึงสามารถ โอนหน่วยกิต ในปี 1- ปี2 ได้เกือบทั้งหมด แต่ค่าหน่วยกิจที่โอนจะแพงกว่าปกตินะคะ
ปกติ 25 บาทคะ แต่ถ้าโอน จะเป็น 50- 100 บาท

หน่วยกิจทั้งหมดขอคณะบริหารธุรกิจ การบัญชีมีทั้งหมด 133 หน่วยกิจคะ
ถ้าใช้วุฒิบริหารธุรกิจป. ตรี ของมหาลัยอื่นๆมาเทียบ จะเทียบได้ 70 หน่วยกิจ
เหลือที่ต้องเรียนอีก 63 หน่วยกิจ หรือ ต้องเรียน 21 วิชา คะ ถ้าลงเทอมละ 7 วิชา ก็ 3 เทอมพอดี

แต่หากจะสมัครโดยการเทียบโอนหน่อยกิจ จะต้องไปสมัครด้วยตัวเองเท่านั้นคะ

อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าลงทะเบียนเรียน และค่าบำรุงการศึกษาชั้นปริญญาตรี
1. ค่าลงทะเบียนเรียนเป็นรายหน่วยกิตๆ ละ 25 บาท
2. ค่าบัตรประจำ ตัวนักศึกษา 60 บาท
3. ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเป็นนักศึกษา 900 บาท
4. ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา 800 บาท
5. ค่าสมาชิกหนังสือพิมพ์ข่าวรามคำ แหง 100 บาท
6. ค่าบำ รุงมหาวิทยาลัย 500 บาท
7. ค่าเทียบโอนหน่วยกิต
 7.1 หน่วยกิตสะสมเดิมจากมหาวิทยาลัยรามคำ แหง (ทุกกรณี) หน่วยกิตละ 50 บาท
7.2 หน่วยกิตอนุปริญญาขึ้นไปจากสถาบันอุดมศึกษาอื่น หน่วยกิตละ 100 บาท

โอเค เมื่อ Blogger เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเงิน เรียบร้อยแล้ว เราก็ไปสมัครกันเลย

เตรียมเงินไปเท่าไรดี
 Blogger ลงเรียน 6 วิชาคะ + ค่าลงทะเบียน และอื่นๆ จ่ายไปประมาณ 2,900 บาท
ส่วนวิชาที่เทียบโอน 70 วิชา วิชาละ 100 บาท ทั้งหมด 7,000 บาท ต้องจ่ายภายใน 1 ปีคะ
จึงทำเรียนเทียบโอนหน่วยกิจสำเร็จ

เอกสารการสมัคร

1 สำเนาบัตรประชาชน 3 ชุด
2 สำเนาทะเบียนบ้าน 2 ชุด
3 ใบ Transcript + certificate 4 ชุด  (เนื่องจากมีการใช้โอนหน่วยกิจคะ)
4 รูปถ่าย 2 นิ้ว 1 รูป
5 ใบรับรองแพทย์คะ

ซื้อใบสมัคร ราคา 120 บาทคะ เขาเปิดขายล่วงหน้า ไปซื้อมาศึกษาก่อนได้เลย
หรือจะไปซื้อวันสมัครเลยเหมือน blogger ก็ได้คะ  เตรียมปากกา ดินสอไปด้วยนะคะ ต้องฝนข้อมูล

เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ ออกเดินทางไปยัง มหาวิทยาลัยรามคำแหงกันเลยคะ
ไปตามวันที่เขาเปิดรับใบสมัคร ตามเวลาราชการคือ 8.00-15.00 อย่าไปสายนะคะ




ที่มา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ข้อมูลอาจจะมีการเปลียนแปลง
สามารถเข้าไปดูได้ตาม link นี้เลยคะ  http://www.ru.ac.th/th/


ตอนต่อไป  ; บัญชีราม-ตอนที่2 ประสบการณ์การเรียน แบบไม่เข้าห้องเรียน

สมัครแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ

เริ่มเข้าเรียนแล้วจะเป็นอย่างไร จะต่างจากการเรียนในห้องเรียนในมหาลัยไทย มหาลัยต่างประเทศอย่างไร

Blogger จะมาอัพเดตให้ฟังกันต่อนะคะ


วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

3 main indicators in garment factory

3 main indicators in garment factory

1 cost per machine hour 
คือต้นทุนต่อจักรต่อวัน
คือ total expense * 10 hr
      sewing hr * ex.r.

sewing hr = sewer * no. day * no time + OT + attending rate

  2 SAM cost 
คือต้นทุนต่อจักรต่อนาที
cost per machine
600 min per day

3 Coupon ratio
ค่าใช้จ่ายที่ใช้ทั้งหมด เพื่อให้ได้ ผลิตผล = coupon 1 unit
= total expenses
  total  coupon  (sewing + GO)



วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Payroll system

Payroll system


อย่างอยากไรให้ turnover ต่ำและ ทุกคนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างระบบ จากบริษัท Big Four แห่งหนึ่ง
ในการขึ้นเงินเดือน และให้ bonus แก่ทุกคนโดยเสมอภาค

1 พนักงานทุกคนที่เข้าใหม่จะมี KPI ของตัวเอง และมีเป้าหมายในปีต่อไป
2 ทุกๆ เดือน หรือ ทุกไตรมาส จะมีการประเมินผลงาน เทียบกับ KPI 
3 คะแนน KPI ที่ได้ จะมีการนำคะแนนในกลุ่ม/ แผนก หนึ่งมาเทียบกัน  โดยปกติจะจัดออกมาเป็น Bell shape/ curve

เช่น
ส่วนหัว  80% up        ให้ขึ้นเงินเดือน 15 %
ส่วนกลางถึงหัว 50-80 % ให้ขึ้นเงินเดือน 10 %
ส่วนท้ายถึงกลาง 30-50 %  ให้ขึ้นเงินเดือน 8 %
ส่วนท้าย 30 % and below   ให้ขึ้นเงินเดือน 0 %

4 เปิดให้มีการ challenge 

5 มีการเปรียบเทียบ + เปิดโอกาส debut ระหว่างแผนก เช่น rate A ของ account เทียบกับ rate A ของ IT ว่ามีมาตราฐานเดียวกันไหม เผื่อให้การขึ้นเงินเดือนมีความยุติธรรมที่สุด

คนทำมากได้มา คนน้อยได้น้อย  ทำให้เกิดการแข่งขันกัน

ฺBy Ringing  Bell

Deferred tax ...มาตราฐานบัญชีปี 2556

Deferred tax ...มาตราฐานบัญชีปี  2556 .
เราคำนวณภาษีล่วงหน้า ที่บริษัทต้องจ่าย


ขออธิบายให้ฟังแบบง่ายๆ ว่า Deferred tax (ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี)  คือ  ภาษีที่เราได้จ่ายหรือถูกหักไว้ล่วงหน้าในปีนั้นๆ  ซึ่งมักจะพบใน  2  กรณีคือ

1.  ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย (ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี)
ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528  กำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ตามนี้ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วนำส่ง

www.rd.go.th/publish/14942.0.html">http://www.rd.go.th/publish/14942.0.html

ซึ่งจะเกิดภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายขึ้นทุกครั้งที่ผู้รับ  ได้รับชำระเงิน  ซึ่งจะบันทึกบัญชีโดย

Dr.  เงินสด / ธนาคาร

Dr.  ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย ( ถือเป็นสินทรัพย์ )


Cr.  รายได้ ( รายได้ ) / เงินรับล่วงหน้า ( หนี้สิน )

Cr.  ภาษีขาย



2.  ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า (ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี)


ปกติตามประมวลรัษฏากรได้กำหนดให้นิติบุคคล  จะต้องยื่นแบบแสดงการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ  2  ครั้งคือ

-  กลางปี  ยื่นตามแบบ ภงด.51

-  ปลายปี  ยื่นตามแบบ ภงด.50

ซึ่งในการคำนวณเพื่อยื่นแบบกลางปีตามแบบ ภงด.51  นั้น  จะเป็นการยื่นแบบแสดงการเสียภาษีล่วงหน้า  ซึ่งเป็นการประมาณรายรับ - รายจ่ายในอนาคตของกิจการที่ยังไม่เกิดขึ้น   โดยการคำนวณในลักษณะนี้ย่อมต้องมีโอกาสคลาดเคลื่อนได้  ดังนั้นเมื่อกลางปีได้นำส่งภาษีได้แล้ว  ปรากฏว่าปลายปี  กลับไม่มีภาษีต้องชำระ  เงินภาษีที่ได้จ่ายล่วงหน้าไปแล้วนั้น  ก็คือ  ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้าครับ   จะบันทึกบัญชีเมื่อจ่ายชำระภาษีกลางปีโดย

Dr.  ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า ( ถือเป็นสินทรัพย์ )

Cr.  เงินสด / ธนาคาร



3.  ภาษีที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ลักษณะดังกล่าวในทางประมวลรัษฏากรจะมีลักษณะสำคัญ  2  ประการคือ

3.1  เป็นภาษีที่เกิดในปีไหน  จะต้องใช้ในปีนั้น  จะมาใช้กับปีอื่นไม่ได้  เช่น  เป็นภาษีถูกหัก ของปี 48  แม้ปี 48 จะใช้ไม่หมด หรือไม่ได้ใช้  แล้วจะนำภาษีถูกหัก ของปี 48  ไปใช้กับภาษีในปี 49 ไม่ได้

3.2  ถ้าจะขอคืน  จะต้องขอคืนเป็นเงินสด  ภายใน  3  ปี  ตามแบบ ค.10  ของกรมสรรพากร  ซึ่งทางสรรพากรก็จะตรวจสอบก่อนจะคืนภาษีให้  ซึ่งในทางปฏิบัติส่วนใหญ่ก็จะไม่ขอคืนครับ  เพราะเกรงว่าหากถูกตรวจสอบแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้คืนเท่าใด  และจะเจอปัญหาในประเด็นอื่นหรือไม่  อาจทำไปทำมาแทนที่จะได้คืนกลับต้องเสียภาษีเพิ่มครับ  แต่เมื่อครบกำหนด  3  ปีแล้วไม่ขอคืนก็ให้ปรับปรุงภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี  นี้ออกเป็นค่าใช้จ่าย  ซึ่งในทางภาษีถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม  ดังนั้นเมื่อบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในทางบัญชีแล้ว  ตอนคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปี  ก็อย่าลืมบวกกลับรายจ่ายตัวนี้ด้วยครับ  จะบันทึกบัญชีโดย

Dr.  ภาษีเงินได้นิติบุคคลตัดจ่าย ( ถือเป็นค่าใช้จ่าย  แต่ต้องบวกกลับตอนคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล )

Cr.  ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี


ที่มา คุณอ้อม , http://www.avaccount.com/accountcontent/index.php?topic=1466.0



ฺัBy Ringing Bell

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เลขานุการบริษัท...หน้าที่ที่เป็นมากกว่าเลขา

เลขานุการบริษัท...หน้าที่ที่เป็นมากกว่าเลขา

เลขานุการบริษัท คือ บุคคลที่คอยช่วยให้บริษัทและคณะกรรมการของบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นตัวกลางที่คอยประสานงานกับบุคคลทั้งภายในบริษัท และภายนอก

หน้าที่

-จัดทำและเก็บรักษาเอกสารที่สำคัญต่าง ๆ ของบริษัท เช่น ทะเบียนกรรมการ หนังสือนัดประชุมคณะกรรมการ หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น รายงานการประชุมทั้งการประชุมคณะกรรมการ และการประชุมผู้ถือหุ้น และรายงานประจำปี เป็นต้น

-รายงานให้บริษัททราบการมีส่วนได้เสียที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจการของบริษัท 

-ในการเก็บรักษารายงาน รวมถึงจัดทำสำเนารายงานการมีส่วนได้เสียดังกล่าว และจัดส่งให้กับกรรมการและผู้บริหารทุกท่านของบริษัททราบ

-เลขานุการบริษัทต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ  (fiduciary duty) ระมัดระวัง(duty of care) และซื่อสัตย์สุจริต(duty of loyalty) และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัท รวมถึงมติของคณะกรรมการและมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่แตกต่างจากแนวทางการทำหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทเลยทีเดียว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ


http://www.set.or.th/th/regulations/supervision/listed_download_p1.html

ฺั By Ringing Bell